5 เรื่อง การศึกษาวิธีการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ ในท่อ PVC ขอบเขตของโครงงาน 3. 1 ศึกษาความหมายของคำว่า ไฮโดรโปนิกส์ 3. 2 ศึกษาที่มาและความสําคัญของไฮโดรโปนิกส์ 3. 3 ศึกษาประโยชน์ของระบบไฮโดรโปนิกส์ 3. 4 ศึกษาวิธีการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ ในท่อ PVC 3. 5 ศึกษาประโยชน์ของการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ 3. 6 ศึกษาข้อดีและข้อด้อยของการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน 3. 7 ศึกษาความปลอดภัยของผักไฮโดรนิกส์ วิธีการดำเนินงาน 4. 1 กำหนดปัญหา เพื่อที่จะศึกษาวิธีการปลูกผักแบบไอโดรโปนิกส์ ในท่อ PVC 4. 2 ขอคำแนะนำจากครูที่ปรึกษาโครงงาน 4. 3 ประชุมกลุ่มแบ่งหน้าที่การหาข้อมูล 4. 4 ประชุมการวางแผนเบื้องต้น 4. 5 ลงมือปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ 4. 6 รวบรวมข้อมูล 4. 7 ประเมินผลการศึกษา ระยะเวลาในการดำเนินงาน การดำเนินงานครั้งนี้ใช้ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 10มิถุนายน พ. ศ. 2558 ถึง 20 กันยายน พ. 2558 ประโยชน์ที่ได้รับ 6. 1 สามารถนำผลผลิตไปอุปโภคและบริโภคได้ 6. 2 ประหยัดเวลา 6. 3ประหยัดพื้นที่ในการปลูก 6. 4สามารถปลูกพืชได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี
เกษตรอินทรีย์ เป็นคำที่ได้ยินและพบเห็นอยู่บ่อยๆในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำรงชีวิตของประชาชนที่หันมาให้ความใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้น นำไปสู่การเลือกซื้อหรือบริโภคสินค้าที่มาจากธรรมชาติเพราะมีความปลอดภัยสูง และหนึ่งในตัวเลือกแรกๆของผู้ที่รักสุขภาพ เลือกที่จะบริโภค นั่นก็คือ? ผักอินทรีย์? ด้วยคำนำยามที่ว่า ผักอินทรีย์ หรือ ผักออร์แกนิก (Organic Vegetable) คือผักที่ปลูกโดยวิถีของเกษตรอินทรีย์ มีการรักษาระบบการผลิตให้เป็นไปตามสมดุลของธรรมชาติ ไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและฮอร์โมนต่างๆ ตลอดจนไม่ใช้พืชหรือสัตว์ที่เกิดจากการตัดต่อทางพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) ส่วนการให้ปุ๋ยจะอยู่ในรูปของปุ๋ยที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด และปุ๋ยชีวภาพ ผลผลิตที่ได้จึงไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค และไม่ทำลายสภาพแวดล้อม ผักอินทรีย์ปลอดภัยปลอดภัยจริงหรือ?
ชัยอาทิตย์ อิ่นคำ ร่วมแสดงความคิดเห็น
ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ?
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ต้นเป็นพืชล้มลุกฤดูเดียวลำต้นสีเขียว สูง 30 – 100 ซม. ลำต้นอวบน้ำสีเขียวอ่อนและสีเขียวปนแดง ใบเดี่ยวเรียงสลับเวียนรอบต้น ใบขนาดใหญ่กว้างประมาณ 7 ซม. ยาวประมาณ 10 ซม.
สูตรสารละลายธาตุอาหารเข้มข้น ของผักสลัด (ปุ๋ย AB) อัตรา 1:100 จำนวน 1 ลิตร ปุ๋ย A (Stock Soloution A) สารละลาย ปริมาณ แมกนีเซียมซัลเฟส (MgSO4) 50 กรัม โพแทสเซียมไนเตรท (KNO3) 80 กรัม โมโนแอมโมเนียมฟอสเฟต (MAP) 12. 5 กรัม โมโนโพแทสเซียมฟอสเฟต (MKP) 8. 5 กรัม แมงกานีสคีเลต (Mn-EDTA) 0. 4 กรัม จุลธาตุรวม 0. 5 กรัม วิธีผสมสารละลาย ปุ๋ย A การเตรียมปุ๋ย A ให้ชั่งธาตุอาหารตามปริมาณข้างต้น แยกแต่ละชนิดใส่ภาชนะ ชนิดละ 1 ใบ เมื่อชั่งธาตุอาหารสำหรับเตรียมปุ๋ย A เสร็จแล้ว จากนั้นเติมน้ำสะอาดลงภาชนะที่บรรจุธาตุดังกล่าว ผสมธาตุอาหารแต่ละตัวให้ละลายทั้งหมด แล้วนำสารละลายทั้งหมดเทรวมกัน จากนั้นให้ปรับปริมาณจนครบ 1 ลิตร จะ ปุ๋ย A ที่มีความเข้มข้น 1:100 เท่า ปุ๋ย B (Stock Soloution B) แคลเซียมไนเตรท (Ca(No3)2) 100 กรัม เหล็กคีเลต (Fe-EDTA) 3 กรัม 0.
ผักที่นิยมมาปลูก มีดังนี 1. กรีนโอ๊ค 2. เรดโอ๊ค 3. กรีนคอส 4. บัตเตอร์เฮด 5. เรดคอรัล 6. บัตตาเวีย 7. กวางตุ้ง 8. ผักกาดขาวไดโตเกียว
group Chinese cabbage. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ผักกาดขาวเป็นพืชล้มลุก ลำต้นสั้น ใบมีสีเขียวอ่อน กาบใบหรือก้านใบกว้าง แบน สีขาว กรอบมีน้ำมาก ผักกาดชนิดนี้ไม่ห่อหัว สรรพคุณทางยา: มีฟอสฟอรัส วิตามินเอ และวิตามินซีค่อนข้างสูง มีกรดโฟลิคช่วยในกระบวนการสังเคราะห์สารพันธุกรรม DNA ทำให้เม็ดเลือดแดงแข็งแรง ยังช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ แก้ไอ ขับเสมหะ และแก้พิษสุรา นิยมนำมาใส่ซุป ผัด แกงจืด จิ้มน้ำพริก ผักกาดดองหรือนำมาตกแต่งจานอาหาร ผักกาดฮ่องเต้หรือกวางตุ้งฮ่องเต้ ชื่อสามัญ: Pak Chai, Green Pakchoi ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica Chinensis var. Chinensis Mansf. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ผักกาดฮ่องเต้เป็นพืชล้มลุก ก้านใบสีเขียวอ่อน ลักษณะแบน ส่วนโคนก้านใบจะขยายกว้างมาก และหนา เนื้อกรอบ ปลายใบมน ไม่ห่อหัว สรรพคุณทางยา: ผักกาดฮ่องเต้ เป็นผักที่มีวิตามินสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินเอ วิตามินซี นอกจากนั้นยังมีธาตุอาหารพวกแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง นิยมนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ ผัดน้ำมันหอย หรือต้มเป็นแกงจืด รสชาติหวาน และกรอบ ผักคะน้า ชื่อสามัญ: Chinese Kale ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica alboglabra Bailey. ลักษณะทางพฤกษศาสตร: คะน้าเป็นพืชล้มลุก ตระกูลเดียวกับกะหล่ำ ลำต้นอวบชุ่มน้ำ ใบมีสีเขียวเข้ม คะน้าที่นิยมปลูกมี 2 ประเภท คือ คะน้าใบ และคะน้ายอด สรรพคุณทางยา: คะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างการจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอที่มีผลต่อการบำรุงสายตา เสริมสร้างสุขภาพผิวพรรณและต้านทานการติดเชื้อ คะน้าให้โฟเลทและธาตุเหล็กสูง ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง นิยมนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ผัดน้ำมันหอย ราดหน้ายอดผัก ลวกจิ้มน้ำพริก บริโภคทั้งแบบสดและดิบ ผักโขม ชื่อสามัญ: Spinach, Amaranth ชื่อวิทยาศาสตร์: Amaranthus tricolor Linn.
ที่มา เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ผู้เขียน วัชรี ภูรักษา เผยแพร่ วันพฤหัสที่ 4 พฤษภาคม พ. ศ.