ที่แก้ไขใหม่ปี 2560 ก็ไม่ได้ไปไกลกว่าการที่กองทุน กยศ. จะหาวิธีติดตามเอาเงินคืนมาจากลูกหนี้ รวมถึงผู้กู้ยืมก็ยังคงต้องมีผู้ค้ำประกันอยู่ แต่ไม่มีการหาวิธีให้ผลของการกู้ยืมกลับคืนมาอย่างมีประสิทธิภาพหรือตั้งคำถามว่าการมีผู้ค้ำประกันยังมีความจำเป็นแค่ไหน ทั้งที่บทบาทของกองทุน กยศ. ภายหลังจากกองทุนได้จัดตั้งมาร่วม 20 ปี ควรไปในทิศทางที่ชัดเจนว่าทำอย่างไรจึงจะสร้างคนให้สอดคล้องกับการพัฒนาชาติ หาวิธีการให้เด็กมาเรียนในสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ โดยสร้างมาตรการจูงใจต่างๆ เช่น การให้กู้ยืมเงินแบบไม่คิดดอกเบี้ยหรือลดจำนวนเงินกู้ที่ต้องชำระคืนเหลือเพียงครึ่งเดียวหากเด็กคนใดกู้เงินเพื่อไปเรียนในสาขาที่ประเทศยังขาดแคลน เมื่อกองทุน กยศ. เป็นภารกิจที่รองรับการบริการสาธารณะด้านการศึกษา การนำวิธีการทางกฎหมายแพ่งมาบังคับใช้เพื่อให้รัฐสามารถตามเก็บเงินกู้ยืมทุกบาททุกสตางค์จนกระทบบุคคลที่ 3 หรือผู้ค้ำประกัน จึงเป็นเรื่องผิดฝาผิดตัว ไม่เกิดความเป็นธรรมและไม่สอดคล้องกับหลักการของกองทุน กยศ. ผู้เขียนมีข้อเสนอดังนี้ 1. ยกเลิกระบบผู้ค้ำประกัน ผู้ใดกู้ยืมเงิน รัฐควรไปจัดการตามเก็บเงินกับบุคคลนั้น ข่าวครูผู้ค้ำประกันหนี้ กยศ.
เผยแพร่ วันอังคารที่ 6 เมษายน พ. ศ.
1911 และดำเนินการปรับปรุงพันธุ์มะม่วงด้วยวิธีผสมข้ามพันธุ์ก็ยังไม่มีอะไรก้าวหน้า จนกระทั่งในที่สุดได้พัฒนาเทคนิคการผสมเกสรข้ามพันธุ์ขึ้นใหม่โดยการปลิดเอาดอกตูมออก เหลือไว้เฉพาะดอกที่ต้องการผสมเกสรเพียงช่อดอกละไม่เกิน 10-20 ดอก ซึ่งเทคนิคนี้ช่วยให้การผสมเกสรข้ามพันธุ์ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น และลดความยุ่งยากได้เป็นอย่างมาก อีกเทคนิคหนึ่งคือ การผสมเกสรข้ามพันธุ์ระหว่างต้นแม่พันธุ์ที่ผสมตัวเองไม่ติดกับต้นพ่อพันธุ์ที่ต้องการ โดยการต่อกิ่งเข้าไว้ในต้นเดียวกัน และสร้างกรงหรือมุ้งครอบแล้วปล่อยแมลงวันบ้านเข้าไปช่วยผสมพันธุ์ 1. การผสมข้ามพันธุ์ นำต้นแม่พันธุ์มะม่วงพันธุ์ต่างๆ ซึ่งปลูกในกระถาง จำนวน 51 ต้น ไปรวมกับต้นพ่อพันธุ์หนังกลางวัน จำนวน 6 ต้น ภายในมุ้งผ้า เก็บดอกตัวผู้และส่วนเกสรตัวผู้ในดอกสมบูรณ์เพศออก แล้วปล่อยแมลงวันบ้านเข้าไว้ในมุ้ง โดยให้กากน้ำตาลเป็นอาหาร แมลงวันจะบินไปเกาะที่ดอกของต้นพ่อพันธุ์แล้วนำเอาละอองเกสรมาผสมกับดอกสมบูรณ์เพศที่เตรียมไว้ เมื่อผสมเกสรข้ามพันธุ์เรียบร้อยแล้ว เข้าแบ่งสิ่งทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหนึ่งปลิดเอาดอกที่ไม่ได้ผสมเกสรออกทั้งหมด และอีกกลุ่มหนึ่งคงช่อดอกที่ไม่ได้ผสมเกสรเหลืออยู่ไว้บนต้น พบว่า การปลิดช่อดอกออกได้ผลที่ผสมติดในมะม่วงพันธุ์หนังกลางวัน และ ทองคำ 67.
การปลูก การเตรียมดิน และการเตรียมแปลง สามารถทำได้ 2 รูปแบบตามสภาพพื้นที่ คือ – พื้นที่ดินเหนียว น้ำท่วมขังง่าย และมีระบบน้ำมากเกินพอ ให้ทำการขุดร่องลุกประมาณ 1 เมตร กว้าง 1-2 เมตร เพื่อเป็นแนวร่องสำหรับการให้น้ำ การเตรียมแปลง และการปลูกในลักษณะนี้มักพบในพื้นที่ลุ่มภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ – พื้นที่ทั่วไปที่มีระบบน้ำไม่เพียงพอ สามารถปลูกในแปลงโดยไม่ยกร่องหรือการยกร่องสูงประมาณ 30 ซม. ระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 3-4 เมตร ทั้งนี้ ให้ทำการไถดะ 1 ครั้ง เพื่อตากดิน และกำ จั ด วั ช พื ช และไถแปร 1 ครั้ง โดยเว้นช่วงห่างประมาณ 1-2 อาทิตย์ หลังจากนั้นทำการไถยกร่อง วิธีปลูก -ใช้กิ่ง พั น ธุ์จากการตอนหรือการปักชำ – ขุดหลุมปลูก กว้าง ลึก ขนาด 50×50 เซนติเมตร แต่ละหลุมห่างกันประมาณ 3 เมตร ระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 3-4 เมตร หรือตามขนาดระยะห่่างของร่อง -รองพื้นด้วย ปุ๋ ย ค อ ก ประมาณ 0.