2549 ต่อมาเมื่อเกิด รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ. 2549 คณะรัฐประหาร ออกคำสั่งเรียก ให้ยงยุทธและ เนวิน ชิดชอบ ไปรายงานตัว [9] คดีความ [ แก้] การทุจริตเลือกตั้งในฐานะกรรมการบริหารพรรค: เหตุยุบพรรคพลังประชาชน [ แก้] เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ. 2551 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบให้ยงยุทธเป็น ประธานสภาผู้แทนราษฎร, สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นรองประธานฯ คนที่ 1 และ พันเอก อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นรองประธานฯ คนที่ 2 โดยมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนอง พระบรมราชโองการ [10] แต่ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน ที่ประชุม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) ส่วนกลาง 5 คน ลงมติให้ใบแดงแก่ยงยุทธ ด้วยคะแนนเสียง 3:1 (อีกหนึ่งเสียงที่หายไปคือ สดศรี สัตยธรรม ซึ่งงดออกเสียง) เนื่องจากเรื่องร้องเรียน การทุจริตเลือกตั้ง ที่ จังหวัดเชียงราย ใน การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ. 2550 หลังจากนั้น ยงยุทธก็แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน พ. 2551 หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ศาลฎีกาผู้วินิจฉัยชี้ขาดการทุจริต ส. มีคำวินิจฉัยว่านายยงยุทธ กระทำผิดฝ่าฝืนพรบ.
เห็นว่ามีความผิดโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใดๆ เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร จึงสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ และดำเนินคดีอาญาแก่นายยงยุทธ และนายวีระเดช [12] ภายหลังศาลอุทธรณ์ภาคมีคำพิพากษายืนตามมติกกต. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ [ แก้] อ้างอิง [ แก้] แหล่งข้อมูลอื่น [ แก้] ประวัติจาก คมชัดลึก
โดยมิตติเป็นผู้สมัคร ส. ส. บัญชีรายชื่อลำดับ 5 เมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบ กลับมาทำทีมฟุตบอลเต็มตัวอีกครั้ง เปิดใจหลังคว้าแชมป์ ว่าดีใจมากที่ทำได้ เนื่องจากต้องสู้กับอะไรต่อมิอะไรที่ไม่ถูกต้องมาโดยตลอด ภารกิจต่อไป นอกจากเตรียมทีมลุยศึกเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก 2020 ยังตั้งเป้าป้องกันแชมป์ให้ได้อีกฤดูกาล
เผยแพร่: 27 ต. ค.